วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

(รีวิว) จันดารา ปัจฉิมบท โศกนาฏกรรม กามตัณหาของมนุษย์

จันดารา ปัจฉิมบท

หลังจากที่ได้มีโอกาสชม จันดารา ปฐมบท ทั้งรูปแบบในโรงภาพยนตร์และรูปแบบ UNCUT  ก็อดไม่ได้ที่จะตามมาดูภาคปัจฉิมบทต่อ เพื่อมาดูบทสรุปของตัวละครทุกตัวว่าจะเป็นอย่างไร
ความโกรธ ความเกลียดชัง ความแค้น
จันดารา ปัจฉิมบท นำเสนอในส่วนของการที่จันกลับมาแก้แค้นคุณหลวง  โดยผู้ที่จุดติดความเครียดแค้นของจันนั้นมาจากคุณยายซึ่งได้สั่งเสียแก่จันก่อนตายด้วยถ้อยคำที่มีแต่ความเกลียดชัง พยาบาท คำสบถ คำด่าทอ และจบชีวิตด้วยการนอนตายตาไม่หลับ
เมื่อมีอดีตอันแสนรันทด ประจวบกับวาจาของคุณยายที่ได้สั่งเสียไว้แล้วนั้น เด็กหนุ่มที่มีจิตใจอ่อนโยน ใสซื่อ อย่างจันกลับกลายเป็นคนที่มีจิตใจขุ่นมัว ความคิดที่มีแต่อยากจะเอาคืน อยากแก้แค้น และนั่นเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมของจันดารา ปัจฉิมบทนี้
สถานะ
หากใครได้ดูในภาคปฐมบทมาก่อน จะเห็นได้ชัดไว้ ในภาคปัจฉิมบท เปรียบเสมือนการกลับสถานะกันระหว่าง คุณหลวงและจันดารา
คุณหลวงถูกสวมเขาให้แต่งงานกับดารา(แม่ของจัน) เพื่อปิดบังการท้องไม่มีพ่อของดารา เมื่อคุณหลวงทราบเข้าจึงเรียกร้องทรัพย์สมบัติจากคุณยาย ทั้งที่ดินและบ้านในกรุงเทพ ซึ่งคุณยายจำต้องยอมเพื่อรักษาหน้าแห่งวงศ์ตระกูล
ในขณะเดียวกันเมื่อ หนูแก้ว ลูกสาวของน้าวาดและคุณหลวงตกอยู่ในสถานการณ์ ท้องไม่มีพ่อ จำต้องหาคนมาแต่งงานเพื่อรักษาหน้าแห่งวงศ์ตระกูล ซึ่งผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่ต้องมารับหน้าที่แต่งงานรักษาหน้าในครั้งนี้ย่อมมีเพียง จันดารา แต่อย่างไรก็ตาม การยอมแต่งงานของจันดาราครั้งนี้ย่อมมีวัตถุประสงค์ คือการกลับมาแก้แค้น ฉะนั้น ข้อต่อรองในการแต่งงานครั้งนี้ คือการเรียกร้องทรัพย์สมบัติกลับคืนแก่วงศ์ตระกูล พร้อมทั้งคุณหลวงต้องยอมศิโรราบแก่จันดารา ทุกประการ

ตัณหา ราคะ นำพาสู่หายนะ    
แม้ตัณหา การมีเพศสัมพันธ์ จะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่มันก็สิ่งที่สร้างความปั่นป่วนให้กับมนุษย์ได้เช่นกัน
หนูแก้ว ผู้หญิงซึ่งมีความวิปริตทางเพศ มอบความรักให้กับขจร ทั้งคู่จบลงโดยการมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ทราบว่าเขาทั้งคู่เป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน เมื่อทราบความจริง ขจรไม่สามารถรับได้จึงได้หนีออกจากบ้านโดยทิ้งหนูแก้วซึ่งตั้งครรภ์กับตนไว้ที่บ้าน
ความต้องการของจันดาราที่มีต่อคุณหญิงบุญเลื่อง ทั้งคู่ต่างแอบมีเพศสัมพันธ์โดยมีเงื่อนไขที่ว่า จันห้ามทำร้ายคุณหลวงถึงชีวิต(ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดียวกับที่น้าวาดเคยขอไว้กับคุณหลวงเพื่อปกป้องจัน) แต่เมื่อคุณหลวงได้มาเห็นภาพความจริงระหว่างที่จันดารากับคุณหญิงบุญเลื่องกำลังร่วมรักกัน คุณหลวงได้ล้มเป็นอัมพาต
เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ เพียงตัณหา ราคะ ของมนุษย์ ถึงกับส่งต่อสภาพจิตใจ ความรู้สึก ความเป็นไป ของตัวเองและคนรอบข้างได้เลยทีเดียว
ชีวิตที่คล้ายคลึงกัน
อย่างที่ทราบกันว่าจันนั้นไม่ใช่ลูกของคุณหลวงแท้ๆ คุณหลวงเป็นเพียงผู้ที่สวมฉากรับหน้าเป็นพ่อให้กับเด็กอย่างจันเพียงเท่านั้น ในทำนองเดียวกัน “ปรีย์ ดารา” ลูกชายของหนูแก้วและขจร ด้วยเหตุที่ขจรหลีกปัญหาโดยการละทิ้งลูกและหนูแก้ว ทำให้จันต้องสวมฉากรับหน้าเป็นพ่อให้กับปรีดาราเช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม จันดารา กลับไม่ประพฤติตนเช่นเดียวกับคุณหลวง ที่คอยให้ความเกลียดชัง แก่จันตั้งแต่เกิด เพราะ“ปรีย์ ดารา” เป็นเสมือนกระจกสะท้อนชีวิตการกำเนิดของจัน จันจึงประพฤติต่อ ปรีย์ ดารา ด้วยความรักทะนุถนอม เหมือนตนเป็นพ่อที่แท้จริง แต่แล้วเรื่องราวดีๆกลับมาพังทลายโดยการที่ ปรีย์ ดารา มีความผิดปกติทางสมองด้วยเหตุที่พ่อและแม่เด็กที่แท้จริงมีโครโมโซมที่ใกล้เคียงกัน จัน ดารา ถึงกับใจสลายเมื่อได้ทราบความจริงนี้


กามตัณหา หรือจะสู้รักแท้
แม้ภาพยนตร์จะสะท้อนเรื่องราวกามารมณ์ของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีการแฝงเรื่องราวดีๆ ในเรื่อง
เคน กระทิงทอง ชายผู้มีตัณหาหนัก รักสนุกกับการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อเขาได้เจอกับ “มาลัย” หญิงสาวผู้กำลังปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดเดียวกับ จัน ดารา เคนได้เกิดความรักที่ปราศจากความหลง ทั้งคู่แต่งงาน มีลูกด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน โดยที่เคน ไม่มองหญิงอื่นเพื่อสนองความใคร่ของตัวเองอีกเลย
นี่อาจเป็นข้อคิดให้กับ ชายเจ้าชู้ทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งหญิงที่หลงรักชายเจ้าชู้ “เมื่อใดที่เค้าเจอคนที่ใช่ เมื่อนั้นคือวันที่เค้าจะหยุด”
มิตรภาพมิอาจเสื่อมคลาย
จันดารา ปัจฉิมบท ยังเสนอให้เห็น ความสัมพันธ์ระหว่าง จันดารา และ นายเคน กระทิงทอง  แม้นายเคนจะเป็นคนชักพาจันดาราเข้าสู่วงการ กามตัณหา ตามประสาผู้ชาย แต่อย่างไรก็ตาม เคน ผู้เป็นคนรับใช้และเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของจัน ดารา มาตั้งแต่วัยเด็ก ไม่เคยทอดทิ้งให้ จัน ต้องตกระกำลำบากแต่เพียงผู้เดียว
เคนยอมติดตามจันไปยังพิจิตรเพื่อคอยรับใช้และเป็นเพื่อนข้างกาย
ในยามที่จันหลงผิด เคนยอมพูดความจริงเพื่อเตือนสติให้จันกลับมาเป็นคนเดิม ด้วยความหวังดี
ถึงจันจะด่าทอ ขับไล่เคนเพียงใด แต่เคนก็ยังไม่หนีไปไหน ยังคอยเคียงข้าง ทำหน้าที่ที่จันมอบหมายไว้เช่นเดิม
เคนเปรียบเสมือนมือขวาผู้ภักดีของจันที่คอยช่วยเหลือจันเสมอมา
นี่อาจเป็นสิ่งที่ดีสิ่งหนึ่งที่ชีวิตจันอันแสนอาภัพมี
จบด้วยความโดดเดี่ยว 
แม้จัน ดาราจะยึดทรัพย์สมบัติและบ้านหลังนี้กลับคืนสู่วงศ์ตระกูลได้สำเร็จ แต่เรื่องราวภายในบ้านหลังนี้ยังคงดำรงอยู่ด้วยตัณหา ราคะ ความพยาบาท เครียดแค้น เกลียดชัง มีหรือที่คนในบ้านจะมีความสุข
น้าวาดเดินเข้าสู่ทางธรรม
คุณหลวงเป็นอัมพาตและเสียชีวิตลงในที่สุด
คุณบุญเลื่องเดินทางออกจากบ้านเพราะหมดหน้าที่ดูแลคุณหลวง
หนูแก้ว ผิดหวังจากคุณหญิงบุญเลื่อง กระโดดจากชั้นสองของบ้าน เสียชีวิตทั้งในสภาพที่ตนตั้งครรภ์ลูกของจัน ดารา
จัน ดารา ไม่มีผู้สืบทายาท
แม้เคนจะเป็นเพื่อนรักของจัน แต่เคนก็มีครอบครัว จำต้องอยุ่กับครอบครัว เคนจะเดินทางมาหาจันปีละ 1 ครั้ง ในสถานที่เดิม
แม้จันจะยัดเยียดทรัพย์สมบัติของตนที่มีเป็นพันๆล้านให้เคน แต่เคนก็ไม่ยอมรับ
แม้รวยล้นฟ้า มีบ้านหลังโต แต่หากอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทรัพย์สมบัติมากมายก็ไม่สามารถสร้างความสุขให้กับตนได้
จัน ดารา จึงนับว่าเป็นตัวละครที่อาภัพอย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
แต่ในส่วนของการแสดง ดูแล้วไม่ค่อยลื่นไหล นักแสดงบางคนดูไม่ค่อยเหมาะกับบทบาทนั้น บางคนก็แสดงล้น บางคนก็แสดงแบบขาดๆ
การดำเนินเรื่องไม่ค่อยกลมกล่อม กำลังดราม่าหนักแต่มาหักด้วยมุขตลก และกลับมาดราม่าอีกครั้ง
ยิ่งที่ส่วนของตอนท้ายเรื่อง กลับตบด้วยบทตลกๆ ทำให้ความรู้สึกที่ดูมาตั้งแต่ต้น เหือดหายไปเกือบครึ่ง
สรุป ภาพยนตร์เรื่องนี้ขอให้ 7/10   

ไม่มีความคิดเห็น: